สถานที่ที่ต้องไปเยือน...สวิตเซอร์แลนด์

 

ปราสาทชิลยอง (Chillon Castle)

 

 

ปราสาทหลังนี้เคยใช้ในการถ่ายทำละครเรื่องคุณชายปวรุจ ตัวปราสาทตั้งอยู่ที่เมืองมงเทรอ ริมทะเลสาบเจนีวา โดยปปราสาทชิลยองเป็นปราสาทที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี สร้างขึ้นโดยดยุคแห่ Savoy เพื่อใช้ควบคุมเส้นทางสัญจร

ตัวปราสาทประกอบด้วยห้องจำนวนมาก เช่น ห้องครัวขนาดใหญ่ ห้องสังสรรค์ ห้องทานอาหาร ห้องสวดมนต์ และคุกใต้ดิน ซึ่งในอดียเคยใช้คุมขังฟรังซัวส์ โบนิวาร์ ผู้ดูแลวิหารเซนต์วิคเตอร์ในเมืองเจนีวา โดยเขาถูกนำมาจองจำและล่ามไว้ที่เสาหินในคุกใต้ดินแห่งนี้ เป็นเวลา 4 ปี ในช่วงปี ค.ศ. 1532 - 1536

 

 

เมืองเวอเว (Vevey)

 

 

เราสามารถนั่งรถไฟจากเมืองมงเทรอไปยังเมือเวอเว (Vevey) ได้โดยใช้เวลาแค่ 13 นาที โดยเมืองเวอเวตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา

กิจกรรมที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว คือ การเดินเล่นเลียบทะเทสาป การถ่ายรูปกับส้อมยักษ์ที่ตั้งอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์เนสท์เล่ และเนื่องจากเมืองนี้เป็นเมืองที่ ชาลี แชปปลิ้น มาพำนักและใช้ชีวิตในบั้นปลาย จึงมีรูปปั้น ชาลี แชปปลิ้น ที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบด้วย

 

อินเทอร์ลาเคิน (Interlaken)

 

 

อินเทอร์ลาเคินเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาปเบรียนซ์ (Brienz) และทะเลสาบเทลสาบทูน (Thun) เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยเทีอกเขาสวิตแอป์ และใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการเตรียมขึ้นเทือกเขา Jungfrau ด้วย

 

ทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz Lake)

 

 

กิจกรรมที่แนะนำคือ การล่องเรือในทะเลสาบเบรียนซ์ ถ้าใช้บัตรสวิสพาสจะนั่งฟรี การเดินทางเริ่มต้นที่เมือง Interlaken ใช้เวลา 1.5 ชั่วโมงไปยังท่าเรือ Brienz (see) วิวระหว่าวทางจะเห็นหมู่บ้านเล็กๆ และปราสาทจำนวนมากที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบสีฟ้าใส

 

 

Brienz Rothorn Bahn (BRB)

 

 

จากทะเลสาบเบรียนซ์ เราสามารถเดินทางมานั่งรถไฟหัวจักรไอน้ำ Brienz Rothonrn Bahn ซึ่งเป็นรถไฟที่เก่าแก่ในสวิสเซอร์แลนด์ เปิดใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1892

สถานีขึ้นรถไฟจะอยู่ใกล้กับท่าเรือ Brienz (see) ค่ารถไฟประมาณ 88 CHF แต่ถ้ามีสวิสพาสจะได้ลดครึ่งราคา รถไฟจะพาเราไต่ยอดเขา Rothorn ขึ้นไป โดยจะเห็นวิวสองข้างทางเป็นทะเลสาบบรียนซ์และทะเลสาบเทลสาบทูน

ถไฟจะเปิดให้บริการตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม - ต้นเดือนพฤศจิการยน

 

 

เมืองทูน (Thun) และทะเลสาบทูน (Thun Lake)

 

 

 จากเมือง Interlaken West เราสามารถนั่งเรือไปยังทะเลสาบทูนได้ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง สุดปลายทางที่เมือง Thun วิวสองข้างทางจะเป็นภูเขาหิมะและมีปราสาทเรียงรายอยู่ริมทะเล

เมืองทูนต้้งอยู่ริมทะเลสาบทูน

นอกจากเราจะเดินทางมาทางเรือแล้ว ยังสามารถเดินทางโดยรถไฟจากเมืองอินเทอร์ลาเคิน (Interlaken) ได้ใช้ระยะเวลาครึ่งชั่วโมง เมืองทูนมีปราสาท Schloss Thun ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมือง และมีสะพานได้ Untere Schleuse ข้ามแม่น้ำ Aare ด้วย

 

 

ลูเซิร์น (Lucrene)

 

  

ลูเซิร์นเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาริมทะเลสาบลูเซิร์น ตึกรามอาคารมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมเก่าแก่สไตล์ยุโรป เป็นที่ตั้งของสะพานไม้เก่าแก่ที่สุด ในโลกอายุ 600 กว่าปี

สะพานชาเปล (Chapel bridge) โดยภายในสะพานจะมีภาพวาดแสดงประวัติของเมืองลูเซิร์น และอนุญาตให้เดินเท้าชมเท่านั้น ไม่สามารถปั่นจักรยานได้

และไฮไลท์ที่ต้องไปชมในเมืองลูเซิร์นคือ อนุสาวรีย์หินสิงโต (Lion Monument) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสะพานชาเปล เป็นอนุเสาวรีย์ที่แกะสลักเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสที่เสียชีวิตในการต่อสู้เพื่อป้องกันพระราชวัง ในเหตุการณ์ปฎิวัติใหญ่ของฝรั่งเศส

 

 

ซูริก (Zurich)

 

 

ซูริกเป็นเมืองหลักที่มีขนาดใหญ่ของสวิสเซอร์แลนด์ ที่เป็นศูนย์กลางระบบขนส่งมวลชนของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ในเมืองจะมีสถาปัตยกรรมรายล้อมเมืองโดยสถานที่ท่องเที่ยวประกอบด้วย หอนาฬิกาแห่งโบสถ์เซนต์ ปีเตอร์ (St. Peter’s Church) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่มีหน้าปัดนาฬิกาใหญ่ที่สุดในยุโรป

โบสถ์ฟราวมุนสเตอร์ โบสถ์หอคอยคู่กรอสมุนเตอร์ (Grossmunster Church) ถนนบานโฮฟซตราสเซอ ซึ่งเป็นถนนช็อบปิ้งของแบรนด์เนม และเมืองเก่าโอลด์ทาวน์ที่ประกอบไปด้วยอาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยยุคกลาง

ซูริกเป็นเมืองที่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี แต่ในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือน กรกฎาคม - กันยายน จะเป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะอากาศจะอบอุ่น

 

เมืองโลซาน (Lausanne)

 

  

เป็นเมืองสวย สงบ ติดทะเลสาปเจนีวาหรืออีกชื่อว่า ทะเลสาปเลอมอง (Lac Leman) โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลสาบจะอยู่ในสวิสเซอร์แลนด์ และอีกส่วนจะอยู่ในประเทศฝรั่งเศส

ทะเลสาบนี้ได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ในเมืองโลซานนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิคสากล หรือ IOC ดังนั้นจึงมี พิพิธภัณฑ์โอลิมปิก (Olympic Museum) ที่รวมประติมากรรมเกี่ยวกับกีฬาและนักกีฬาประเภทต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชม

ในเมืองนี้มีมหาวิหารโลซานน์ (Lausanne Cathedral) ซึ่งสร้างขึ้นตามแบบสถาปัตยกรรมโกธิค โดยเราสามารถเดินไปยังจุดชมวิวเมืองโลซานน์ที่อยู่ด้านหลังวิหารโลซานน์นี้ได้ เพื่อชมพระอาทิตย์ตกดิน เดินเล่นริมทะเลสาบเจนีวา ดูฝูงหงห์ขาว โดยมีเทือกเขาแอลป์เป็นฉากหลัง

สำหรับคนไทย เมืองนี้เป็นเมืองที่มีความหมายพิเศษ เพราะเป็นเมืองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เคยประทับและศึกษาในสมัยที่ยังทรงพระเยาว์ เป็นที่ตั้งของโรงแรมโบริวาจ (Beau-Rivage Palace) ที่ใช้เป็นที่ประทับหลังจากพระบรมราชนกได้ทรงอภิเษกสมรสกับสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

วิวจากโรงแรมจะสามารถมองเห็นแนวเทืองเขาแอล์ปที่สวยงาม ที่ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้เลือกเป็นสถานที่พักผ่อนแล่นเรือใบในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย

ในเมืองจะมีศาลาไม้สัก ที่อยู่ในสวนสาธารณะเดอนองตู ซึ่งสร้างขึ้นในวโรกาสที่ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงครองราชศิริสมบัติครบ 60 ปี และครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยและสวิสเซอรแลนด์

ในเมืองนี้ยังมีแฟลตเลขที่ 16 ถนนทิสโซ (Avenue Tissot) ที่เคยใช้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พร้อมทั้งสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์

จากนั้นทรงได้ย้ายไปที่ วิลล่าวัฒนา (Villa Vadhana) ซึ่งเป็นบ้านเช่าหลังใหญ่เพื่อจากที่รัฐบาลได้ทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จขึ้นครองราชย์ ในเมืองนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยโลซาน (Universite de Lausanne) ที่เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ราชสกุลมหิดลได้ทำการศึกษาด้วย โดยปัจจุบันคือ Palais de Rumine โดยได้ถูกใช้เป็นห้องสมุดแห่งรัฐและห้องสมุดของมหาวิทยาลัย

Written by Jo!